เชิญติชมได้ที่เมล์นี้นะครับ

angel_memmory@hotmail.com

มีอะไรใหม่

วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2552

บทที่ 19 อุ้งเล็บแห่งนรก

คืนต่อมาพระเยซูคริสต์และดิฉัน เดินเข้าไปสู่อุ้งเล็บแห่งนรก


พระเยซูคริสต์ตรัส "เราแทบจะเดินผ่านนรกแล้ว เด็กของเราเอ๋ย เราจะไม่เปิดเผยให้เจ้าได้เห็นนรกทั้งหมด แต่ว่าสิ่งที่เราได้เปิดเผยให้เจ้าเห็น เราต้องการให้เจ้าบอกแก่โลก บอกพวกเขาว่านรกนั้นเป็นจริง บอกเขาเหล่านั้นว่ารายงานนี้เป็นความจริง "


ในขณะที่เราเดิน เราหยุดอยู่บนภูเขาที่มองข้ามไปยังหุบเขาเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ไกลเท่าที่ดิฉันสามารถเห็นได้ มีดวงวิญญาณของมนุษย์จำนวนมากเรียงเป็นแถวอยู่ด้านข้างของภูเขานื้ ดิฉันสามารถได้ยินเสียงร้องของพวกเขา เสียงดังเต็มอยู่ในพื้นที่ พระเยซูคริสต์ตรัส "เด็กของเราเอ๋ย นี่คืออุ้งเล็บแห่งนรก ทุกครั้งที่ปากของนรกเปิดออก เจ้าจะได้ยินเสียงอันดัง "


พวกดวงวิญญาณพยายามที่จะออกมาแต่ไม่สามารถออกมาได้ เพราะว่าพวกเขาถูกฝังอยู่ทางด้านข้างของภูเขา


ในขณะที่พระเยซูตรัส ดิฉันมองเห็นร่างสีดำมากมายกำลังหล่นลงไป ผ่านเราและลงสู่พื้นพร้อมกับเสียงดังโครม ณ ที่ก้นบึ้งของนรก ปีศาจพร้อมด้วยโซ่ตรวนกำลังลากเอาวิญญาณไป


พระเยซูคริสต์ ตรัส "เหล่านั้นเป็นดวงวิญญาณที่เพิ่งจะตายบนโลกและกำลังมาถึงนรก ความเป็นไปนี้ดำเนินไปทั้งวันทั้งคืน "


ในทันใดนั้นเอง สถานที่แห่งนั้นก็เต็มไปด้วยความเงียบ พระเยซูคริสต์ตรัส "เรารักเจ้า เด็กของเราเอ๋ย เราต้องการให้เจ้าบอกผู้คนในโลกเกี่ยวกับนรก"


ดิฉันมองลงไปไกลถึงอุ้งเล็บแห่งนรกผ่านช่องชนิดหนึ่งทางด้านข้างของอุ้งเล็บ เสียงร้อง แห่งความเจ็บปวดและการทรมานผ่านขึ้นมาจากที่นั่น เมื่อไรนะสิ่งนี้จะสิ้นสุดลง ดิฉันสงสัย ดิฉันจะดีใจมากที่จะทำให้จิตใจสงบจากสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด


ครั้นแล้ว ในทันใดนั่นเอง ดิฉันรู้ว่าหมดหวังมาก ดิฉันไม่สามารถพูดได้ว่าดิฉันรู้ได้อย่างไร แต่ดิฉันรู้ด้วยหัวใจทั้งหมดของดิฉันว่าพระเยซูคริสต์ได้จากไปแล้ว ดิฉันรู้สึกเศร้าใจมาก ดิฉันรู้สึกเศร้าใจมาก ดิฉันหันไปทางที่พระองค์อยู่ แน่ใจได้เลยว่า ไม่มีพระเยซูคริสต์อยู่ที่นี่


" โอ ไม่ " ดิฉันร้องออกมา "ไม่อีกนะ โอ พระเยซู พระองค์ไปที่ใด "



สิ่งที่ท่านกำลังจะอ่านอาจทำให้ท่านสะดุ้ง ดิฉันอธิษฐาน มันจะทำให้ท่านสะดุ้งพอที่จะทำให้ท่านเป็นผู้เชื่อคนหนึ่ง ดิฉันอธิษฐาน ท่านจะสำนึกในความผิดบาปของท่าน เพื่อว่าท่านจะไม่ไปสู่สถานที่น่าหวาดกลัวแห่งนี้ ดิฉันอธิษฐานว่าท่านจะเชื่อดิฉัน เพราะว่าดิฉันไม่ต้องการให้สิ่งนี้เกิดขึ้นกับผู้ใดอีก ดิฉันรักท่านและหวังว่าท่านจะตื่นก่อนที่มันจะสายเกินไป



ถ้าหากว่าท่านเป็นชาวคริสเตียนและท่านกำลังอ่านสิ่งนี้อยู่ ขอให้ท่านมั่นใจในความรอดของท่าน จงพร้อมที่จะพบกับพระเจ้าตลอดเวลา เพราะว่าบางครั้งอาจจะไม่มีเวลาที่จะสำนึกในความผิดบาป จงให้แสงสว่างของท่านสว่างและตะเกียงของท่านเต็มไปด้วยน้ำมัน จงพร้อมไว้ เพราะว่าท่านไม่รู้ว่าเมื่อไรพระองค์จะกลับมา ถ้าหากว่าท่านจะไม่เกิดใหม่อีก ให้อ่านยอห์น 3:16-19 และเรียกหาพระเจ้า พระองค์จะช่วยให้ท่านรอดจากสถานที่แห่งการทรมานแห่งนี้


ในขณะที่ดิฉันร้องเรียกหาพระเยซูคริสต์ ดิฉันเริ่มวิ่งลงไปจากภูเขาเพื่อหาพระองค์ ดิฉันถูกทำให้หยุดโดยเจ้าปีศาจร่างใหญ่ที่มีโซ่ตรวนหนึ่งเส้น มันหัวเราะและพูด "เจ้าไม่มีที่จะวิ่งไปไหนเลย หญิงเอ๋ย พระเยซูคริสต์ไม่ได้อยู่ที่นี่เพื่อช่วยเจ้า เจ้าจะต้องอยู่ในนรกตลอดไปตลอดกาล "


"โอ ไม่ " ดิฉันร้อง "ขอให้ฉันไปเถิด" ดิฉันสู้กับเขาด้วยความเข้มแข็งทั้งหมดของดิฉันแต่ในไม่ช้าก็ถูกมัดด้วยโซ่ตรวน และถูกเหวี่ยงลงสู่พื้น ในขณะที่ดิฉันนอนอยู่ที่นั้น เยื่อที่แปลกและเหนียวเริ่มต้นปกคลุมร่างของดิฉัน ด้วยกลิ่นที่เหม็นอย่างรุนแรงเสียจนกระทั่งดิฉันรู้สึกไม่สบาย ดิฉันไม่รู้ว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้


และแล้วดิฉันรู้สึกว่าเนื้อหนังและผิวของดิฉันนั้นเริ่มต้นหล่นลงมาจากกระดูกของดิฉัน ดิฉันกรีดร้องและกรีดร้องในความสยดสยองที่น่าสงสาร "โอพระเยซู" ดิฉันร้องออกมา "พระองค์อยู่ที่ใด"


ดิฉันมองดูตัวเองและมองเห็นว่ารูกำลังเริ่มต้นปรากฏไปทั่วอยู่เหนือเนื้อหนังของดิฉันที่ยังเหลืออยู่ ดิฉันเริ่มต้นเปลี่ยนเป็นสีเทาที่สกปรก และเนื้อหนังสีเทาหล่นลงมาจากดิฉัน มีรูอยู่ข้างลำตัวของดิฉัน อยู่ข้างขาของดิฉัน อยู่ข้างมือของดิฉัน และอยู่ข้างแขนของดิฉัน ดิฉันร้องออกมา "โอ ไม่ ดิฉันอยู่ในนรกตลอดไปตลอดกาล โอ ไม่"


ดิฉันเริ่มต้นรู้สึกถึงพวกหนอนที่อยู่ภายในดิฉัน และมองเห็นกระดูกของดิฉันกำลังเต็มไปด้วยพวกมัน แม้กระทั่งว่าดิฉันจะไม่สามารถมองเห็นพวกมัน แต่ดิฉันรู้ว่ามันอยู่ที่นั่น ดิฉันพยายามที่จะดึงพวกมันออกมา แต่ว่ากลับมีมาเพิ่มมากขึ้น ณ ที่เดิม ตามที่เป็นจริงแล้ว ดิฉันสามารถรู้สึกถึงความเน่าเปื่อยในร่างกายของดิฉัน


ถูกแล้ว ดิฉันรู้ทุกสิ่งและสามารถจำได้อย่างแน่ชัดว่าอะไรได้เกิดขึ้นบนโลก ดิฉันสามารถรู้สึก มองเห็น ได้กลิ่น ได้ยินและได้ลิ้มรสของการทรมานในนรก ดิฉันสามารถมองเห็นภายในของดิฉันเอง ดิฉันเป็นเพียงร่างที่มีกระดูกที่สกปรกร่างหนึ่งเท่านั้นเอง อย่างไรก็ตาม ดิฉันสามารถรู้สึกถึงสิ่งทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นพร้อมกับดิฉัน ดิฉันมองเห็นคนอื่น ๆ เหมือนดิฉันเอง มีวิญญาณอยู่ในที่ห่างไกลเท่าที่ดิฉันจะสามารถมองเห็นได้


ดิฉันร้องออกมาในความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส "โอ พระเยซู โปรดช่วยดิฉันด้วย พระเยซู " ดิฉันต้องการที่จะตาย แต่ดิฉันไม่สามารถตายได้ ดิฉันรู้สึกถึงไฟลุกขึ้นอีกในขาของดิฉัน ดิฉันกรีดร้อง " พระองค์อยู่ที่ไหน พระเยซู" ดิฉันกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนพื้นและร้องไปพร้อมๆกัน


กับคนอื่น ๆ เรากำลังนอนอยู่ในอุ้งเล็บของนรกในกองเล็กๆ คล้ายกับเศษขยะที่ถูกโยนทิ้ง ความเจ็บปวดที่เหลือที่จะทนทานได้บีบวิญญาณของเราไว้


ดิฉันยังคงกรีดร้องครั้งแล้วครั้งเล่า "พระองค์อยู่ที่ไหน พระเยซู พระองค์อยู่ที่ไหน พระเยซู "


ดิฉันสงสัยว่านี้อาจจะเป็นเพียงความฝันอย่างหนึ่งเท่านั้น ดิฉันควรจะตื่นไหม ดิฉันอยู่ในนรกจริง ๆ หรือ ดิฉันได้ประกอบความผิดบาปอันยิ่งใหญ่บางประการต่อพระเจ้า และสูญเสียการมีชีวิตรอดของดิฉัน เกิดอะไรขึ้น ดิฉันทำผิดบาปต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์หรือดิฉันจำคำสอนในพระคัมภีร์ได้ทั้งหมดเท่าที่ดิฉันได้เคยฟังมาก่อน ดิฉันรู้ว่าครอบครัวของดิฉันอยู่ในที่ใดที่หนึ่งเหมือนดิฉัน ในอาการอันขนลุกขนพอง ดิฉันตระหนักได้ว่าดิฉันอยู่ในนรกอย่างเดียวกันกับวิญญาณอื่น ๆ ที่ดิฉันได้เห็นและได้พูดมาแล้วนั่นเอง


ดิฉันรู้สึกแปลกที่มีความสามารถมองผ่านทะลุร่างกายของดิฉันได้อย่างครบถ้วน ตัวหนอนได้เริ่มต้นคลานอยู่บนตัวดิฉัน ดิฉันสามารถรู้สึกถึงการคลานของพวกมัน ดิฉันกรีดร้องด้วยความกลัวและด้วยความเจ็บปวด


ครั้นแล้วเจ้าปีศาจได้พูด "พระเยซูของเจ้าปล่อยเจ้าลงมา มิใช่หรือ เอาละ เจ้าเป็นสมบัติของซาตานแล้ว ณ บัดนี้ เสียงหัวเราะอย่างชั่วร้ายดังมา จากเขาในขณะที่เขายกเอาร่างของดิฉันขึ้นมาและวางดิฉันไว้บนยอดของบางสิ่ง บางอย่าง


ในไม่ช้าต่อมาดิฉันได้พบว่า ดิฉันกำลังอยู่บนหลังของร่างสัตว์บางชนิดที่ตายแล้วแต่ยังมีชีวิตอยู่ เจ้าสัตว์นั่น เหมือนดิฉัน มีสีเทาที่สกปรก เต็มไปด้วยสิ่งเป็นพิษและกำลังเน่าเปือย เนื้อหนังตาย กลิ่นที่เหม็นร้ายกาจเต็มอยู่ในอากาศ เจ้าสัตว์นั่นยกดิฉันขึ้นสูงบนโขดหิน ดิฉันคิด โอ พระเยซู พระองค์อยู่ที่ไหน


เราได้ผ่านวิญญาณมากมายที่กำลังร้องเรียกให้คนช่วย ดิฉันได้ยินเสียงอันดังของอุ้งเล็บนรกที่กำลังเปิดและวิญญาณมากขึ้นหล่นผ่านดิฉันไป มือของดิฉันถูกผูกไว้ข้างหลังดิฉัน


ความเจ็บปวดไม่คงที่ มันมาในทันทีทันใดและจากไปในทันทีทันใด ดิฉันกรีดร้องทุกครั้งที่ความเจ็บปวดมาและคอยด้วยความหวาดหวั่นเมื่อมันลดลง


ดิฉันคิด ดิฉันจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไร อะไรอยู่ข้างหน้า นี่เป็นวาระสุดท้ายหรือ ดิฉันทำอะไรที่สมควรต่อการตกนรก "โอ พระเยซู พระองค์อยู่ที่ไหน " ดิฉันร้องออกมาในความเจ็บปวด


ดิฉันร้องไห้ แต่ไม่มีน้ำตาไหลออกมา มีเพียงการสะอื้นไห้ที่ทำให้ร่างกายของดิฉันสั่น เจ้าสัตว์ร้าย หยุดตรงหน้าบางสิ่งบางอย่าง ดิฉันมองขึ้นไปดูห้องที่สวยงามเต็มไปด้วย เพชรพลอยที่ล้ำค่าและแวววาวอย่างหรูหรา ตรงศูนย์กลางของห้องนี้มีหญิงที่สวยงามสวมใส่อาภรณ์ของพระราชินี ดิฉันสงสัยในภาวะแห่งความสิ้นหวังว่าสิ่งนี้คืออะไร


ดิฉันพูด "หญิงเอ๋ย โปรดช่วยดิฉัน " เธอมาใกล้และถ่มน้ำลายใส่หน้าของดิฉัน เธอสาปแช่งดิฉันและพูดสิ่งที่เลวทรามใส่ดิฉัน "โอ พระเยซู ต่อจากนี้คืออะไร "ดิฉันร้อง เสียงหัวเราะอย่างชั่วร้ายดังมาจากเธอ


ณ เบื้องหน้าดิฉันผู้หญิงคนนั้นเปลี่ยนไปเป็นผู้ชายคนหนึ่ง เปลี่ยนเป็นแมว เป็นม้า เป็นงู เป็นหนู และเป็นชายหนุ่ม ไม่ว่าเธอจะเลือกเป็นอะไร เธอก็เป็นอย่างที่เธอเลือก เธอมีอำนาจชั่วร้ายที่ยิ่งใหญ่ ณ เบื้องบนของห้องของเธอได้เขียนข้อความ "ราชินีแห่งซาตาน"


เจ้าสัตว์ร้ายเคลื่อนไหวต่อไปซึ่งดูเหมือนเป็นชั่วโมง และครั้นแล้วมันหยุด ในอาการสั่นไหวดิฉันถูกโยนโครมลงมาจากเจ้าสัตว์ร้าย และหล่นลงสู่พื้น ดิฉันมองขึ้นมาและได้เห็นกองทัพของเหล่าผู้ชายบนหลังม้ากำลังขี่ม้าตรงมาที่ดิฉัน ดิฉันถูกบังคับให้อยู่ทางด้านข้างขณะที่พวกเขาผ่าน พวกเขาก็เป็นโครงกระดูกที่มีสีเทาสกปรกแห่งความตาย


หลังจากที่พวกเขาผ่านไปแล้ว ดิฉันถูกยกขึ้นมาจากพื้นและถูกจับใส่ห้องขังเดี่ยว ในขณะที่มีคนใส่กุญแจประตู ดิฉันมองไปโดยรอบห้องขังเดี่ยวในอาการอันหวาดกลัวและร้องออกมา ดิฉันอธิษฐาน แต่ปราศจากความหวัง ดิฉันร้องไห้และสำนึกในความผิดบาปถึงหนึ่งพันครั้งสำหรับความผิดบาปของดิฉัน ถูกแล้ว ดิฉันคิดไปถึงสิ่งต่าง ๆ มากมายที่ดิฉัน สามารถทำได้เพื่อนำคนอื่น ๆ ไปสู่ความเป็นชาวคริสเตียนและที่จะช่วยคนบางคนเมื่อพวกเขาต้องการ ดิฉันดิฉันสำนึกในความผิดบาปถึงสิ่งที่ดิฉันได้ทำและสิ่งที่ดิฉันละไว้โดยมิได้กระทำ


"พระเยซู ช่วยดิฉันให้รอด" ดิฉันร้องออกมา ครั้งแล้วครั้งเล่า ดิฉันเรียกหาพระเจ้าให้ช่วยดิฉัน ดิฉันไม่สามารถมองเห็นพระองค์และรู้สึกถึงพระองค์ ดิฉันอยู่ในนรกเหมือนกับพวกคนอื่น ๆ ที่ดิฉันได้เห็นมานั้นแหล่ะ ดิฉันล้มลงที่พื้นในความเจ็บปวดและร้องไห้ ดิฉันรู้สึกว่าดิฉันสูญสิ้นตลอดกาล


หลายชั่วโมงผ่านไป และบ่อยเหลือเกินที่เสียงอันดังได้มาถึงอีก และวิญญาณอื่น ๆ หล่นลงสู่นรก ดิฉันคงเรียกออกมา "พระเยซู พระองค์อยู่ที่ไหน " ไม่มีเสียงตอบกลับมา พวกตัวหนอนเริ่มต้นคลานอยู่ภายในร่างที่เป็นวิญญาณของดิฉันอีก ดิฉันสามารถรู้สึกถึงพวกมันได้ทั้งหมดในภายในดิฉัน


มีความตายอยู่ในที่ทุกแห่งหน ดิฉันไม่มีเนื้อหนัง ไม่มีอวัยวะ ไม่มีเลือด ไม่มีร่างกายและไม่มีความหวัง ดิฉันยังคงดึงเอาตัว หนอนออกมาจากร่างโครงกระดูกของดิฉัน ดิฉันรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างกำลังจะเกิดขึ้นและดิฉันต้องการที่จะตายแต่ว่าไม่สามารถที่จะตายได้ วิญญาณของดิฉันจะมีชีวิตอยู่ตลอดไปชั่วนิรันดร์


ดิฉันเริ่มต้นร้องเพลงเกี่ยวกับชีวิตและอำนาจในโลหิตของพระเยซู ซึ่งโลหิตนั้นสามารถที่จะช่วยให้รอดจากความผิดบาป เมื่อดิฉันได้ทำ บรรดาเจ้าปีศาจตัวใหญ่พร้อมด้วยหอกได้มาและแหกปาก "หยุดมัน"


พวกมันแทงดิฉันด้วยหอก และดิฉันรู้สึกถึงประกายร้อนของไฟวูบวาบในขณะที่ปลายแหลมทะลุเข้าไปในร่างของดิฉัน พวกเขาแทงดิฉันครั้งแล้วครั้งเล่า


พวกเขาร้องเพลง "ซาตานเป็นพระเจ้าที่นี่ เราเกลียดพระเยซูและทุกสิ่งที่พระองค์ยืนหยัด"


เมื่อดิฉันไม่หยุดร้องเพลง พวกเขานำดิฉันออกมาจากห้องขังเดี่ยวและลากดิฉันไปยังที่โล่งขนาดใหญ่ "ถ้าหากว่าเจ้าไม่เงียบ" พวกมันพูด " การทรมานของเจ้าจะยิ่งมากขึ้น"


ดิฉันหยุดการร้องเพลง และนานจนกระทั่งพวกเขาใส่ดิฉันกลับคืนเข้าไปในห้องขังเดี่ยว ดิฉันนึกขึ้นมาได้ถึงถ้อยคำในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเกี่ยวกับฑูตสวรรค์ผู้ถูกจองจำไว้ในโซ่ตรวนจนกระทั่งถึงวันตัดสินครั้งสุดท้าย ดิฉันสงสัยว่านี่เป็นการตัดสินของดิฉันหรือ" พระเยซู ช่วยผู้คนบนโลกให้รอด ดิฉันร้อง "ปลุกให้พวกเขาตื่นก่อนที่มันจะสายเกินไป" ประโยคในพระคัมภีร์ศาสนาคริตส์มากมายเข้ามาสู่จิตใจของดิฉัน แต่ว่าดิฉันกลัวเจ้าปีศาจทั้งหลายและจึงไม่พูดถึงประโยค เหล่านั้น


เสียงคร่ำครวญและเสียงกรีดร้องเต็มอยู่ในอากาศที่สกปรก หนูตัวหนึ่งคลานมาใกล้ดิฉัน ดิฉันเตะมันออกไป ดิฉันคิดถึงสามีและลูก ๆ ของดิฉัน "โอ พระเจ้า อย่าให้เขาเหล่านั้นมา ณ ที่แห่งนี้ ดิฉันร้อง เพราะว่าดิฉันรู้อย่างแน่วแน่ว่าดิฉันอยู่ในนรก


พระเจ้าไม่ได้ฟังดิฉัน หูของผู้ทรงอานุภาพถูกปกปิดต่อเสียงร้องของนรก ดิฉันคิด ถ้าเพียงแต่ว่าจะมีคนได้ฟังเท่านั้น


หนูตัวใหญ่วิ่งขึ้นตามขาบนของดิฉันและกัดดิฉัน ดิฉันกรีดร้องออกมาและดึงมันออกไป มีอาการเจ็บปวดแปล๊บใหญ่


ไฟจากแหล่งที่ไม่ปรากฏเริ่มลามมาที่ดิฉันอย่างช้าๆ วินาที นาที ชั่วโมงผ่านไป ดิฉันเป็นคนบาปคนหนึ่ง ที่ลงมาสู่นรก "โอ ความตาย มาเถิด " ดิฉันร้องออกมา เสียงร้องของดิฉันดูเหมือนจะทำให้อุ้งเล็บของนรกทั้งอุ้งเต็มไปด้วยเสียงร้องของดิฉัน คนอื่น ๆ เข้าร่วมในการร้องของดิฉัน ดิฉันสูญเสียตลอดกาล ไม่มีทางไป ดิฉันต้องการตาย แต่ดิฉันไม่สามารถที่จะตายได้


ดิฉันล้มลงกองที่พื้น มีความรู้สึกถึงการทรมานนี้ทั้งหมด ดิฉันได้ยินเสียงอุ้งเล็บนรกเปิดออกอีกครั้งหนึ่ง และวิญญานเข้ามามากขึ้น ไฟไหม้ดิฉันแล้วคราวนี้ และความเจ็บปวดอย่างใหม่มาถึง ดิฉันรู้สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้ทั้งหมด และดิฉันรู้ว่าเมื่อวิญญาณตายบนโลกและมิได้รับการช่วยเหลือให้รอดจากความผิดบาปของพวกเขา พวกเขาจะมาถึงที่นี่


"พระเจ้าของดิฉัน ช่วยดิฉันด้วยเถิด " ดิฉันร้อง "โปรดช่วยพวกเราทั้งหมดด้วย" ดิฉันจำได้ตลอดชีวิตของดิฉัน และพวกเขาเหล่านั้นผู้ได้บอกดิฉันเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์ ดิฉันจำได้ถึงการอธิษฐานเพื่อคนป่วย และพระเยซูคริสต์ได้รักษาพวกเขาอย่างไร ดิฉันจำได้ ถึงถ้อยคำแห่งความรักของพระองค์และแห่งความอบอุ่น และแห่งความสัตย์ซื่อของพระองค์ ถ้าหากเพียงแต่ว่าดิฉันได้เป็นเหมือนพระเยซูคริสต์มากกว่านี้ หรือเป็นอยู่แล้ว ดิฉันก็ไม่ต้องการมาอยู่ ณ ที่นี่ ดิฉันคิด ดิฉันคิดถึงสิ่งที่ดีทั้งหมดที่พระเจ้าได้เคยให้แก่ดิฉัน พระองค์ได้ให้อากาศมากเพียงไรแก่ดิฉันหายใจ อาหาร เด็ก ๆ บ้าน และสิ่งที่ดีงามที่จะได้ชื่นชม แต่ว่า ถ้าหากว่าพระองค์เป็นพระเจ้าที่ดี ก็แล้วทำไมเล่าดิฉันจึงต้องมาอยู่ ณ ที่นี่ ดิฉันไม่มีความแข็งแรงพอที่จะลุกขึ้น แต่ว่าวิญญาณของดิฉันยังคงร้องไห้ต่อไป ขอให้ดิฉันออกไปจากที่นี่


ดิฉันรู้ว่าชีวิตกำลังดำเนินต่อไปเมื่อดิฉันและในที่บางแห่งเพื่อน ๆ ของดิฉันและครอบครัว กำลังดำเนินชีวิตตามปกติธรรมดาของพวกเขา ดิฉันรู้ว่ามีเสียงหัวเราะ ความรัก ความกรุณา อยู่ที่บางแห่งเหนือที่นั่น แต่ถึงแม้ว่ามันจะเริ่มต้นเลือนหายไปในความเจ็บปวดอย่างเหลือเกิน ความมืดสลัว ๆ และหมอกที่มืดมัว สกปรกเต็มอยู่ในส่วนนี้ของนรก แสงสว่างสีเหลืองสลัว ๆ มีอยู่ในทุกที่ และกลิ่นแห่งเนื้อเน่าและความเน่าเปื่อยแทบจะเหลือที่จะทนทาน นาทีดูเหมือนเป็นชั่วโมง ๆ และชั่วโมงก็ยืดออกไปเป็นชั่วนิรันดร โอ เมื่อไหร่สิ่งนี้จะสิ้นสุดลง


ดิฉันไม่ได้นอน ไม่ได้พักผ่อน ไม่มีอาหารและไม่มีน้ำ ดิฉันหิวโหยและกระหายน้ำเสียยิ่งกว่าที่ดิฉันจะจำได้ว่าเคยเป็นมาก่อนตลอดชีวิตของดิฉัน ดิฉันเหนื่อยเสียเหลือเกินและง่วงเสีย เหลือเกิน แต่ว่าความเจ็บปวดก็มีต่อไปมีต่อไป แต่ละครั้งที่อุ้งเล็บนรกเปิด พวกเขาเอามนุษย์ผู้สูญเสียอีกจำนวนหนึ่งมาโยนลงไปในนรก ดิฉันสงสัยว่าจะมีบางคนที่ดิฉันรู้จักรวมอยู่ในคนเหล่านี้ด้วยหรือไม่ พวกเขาจะนำเอาสามีของดิฉันมาที่นี่ด้วยหรือ


หลายชั่วโมงผ่านไปนับตั้งแต่ดิฉันได้มาถึงในอุ้งเล็บของนรก แต่แล้วดิฉันสังเกตุเห็นว่าแสงสว่างเริ่มส่องเข้ามาในห้อง ในทันทีทันใดนั่นเอง ไฟหยุดไหม้ หนูวิ่งหนีไป และความเจ็บปวดได้หายไปจากร่างกายของดิฉัน ดิฉันมองหาเส้นทางแห่งการหลบหนี แต่ไม่มีเ ลย


ดิฉันสงสัยว่าอะไรกำลังเกิดขึ้น ดิฉันมองออกไปจากช่องของนรก รู้ว่านี้เป็นบางสิ่งที่น่ากลัว และครั้นแล้วนรกเริ่มสั่นสะเทือน และไฟที่ลุกไหม้ได้กลับมาอีก พวกงูและพวกหนูและตัวหนอนกลับมาอีก ความเจ็บปวดที่เหลือทนทานได้บรรจุเต็มอยู่ในดวงวิญญาณของดิฉันในขณะที่การทรมานเริ่มต้นอีกครั้ง


"โอ พระเจ้า ขอ ให้ดิฉันตายเถิด " ดิฉันร้องในขณะที่เริ่มต้นทุบ ทุบพื้นดินของห้องขังเดียว ของดิฉัน ด้วยมือที่มีแต่กระดูกของดิฉัน ดิฉันกรีดร้องและร้องไห้ แต่ไม่มีใครรู้หรือไม่มีใครสนใจ


ในทันใดนั้นเอง ดิฉันถูกยกขึ้นมาจากห้องขังเดี่ยว โดยพละกำลังที่มองไม่เห็น เมื่อดิฉันมีสติสัมปชัญญะกลับคืนมา พระเยซูคริสต์และดิฉันกำลังยืนอยู่ข้าง ๆบ้านของดิฉัน ดิฉันร้องออกมา "ทำไมเล่า พระเยซู ทำไมเล่า" และล้มลงที่แทบเท้าของพระองค์ในอาการที่สิ้นหวัง



พระเยซูคริสต์ ตรัส "สันติ จงสงบ " ดิฉันมีสันติในทันที พระองค์ยกดิฉันอย่างนิ่มนวล และดิฉันหลับอยู่ในอ้อมแขนของพระองค์ "



เมื่อดิฉันตื่นขึ้นมาในวันต่อมา ดิฉันป่วยมาก เป็นเวลาหลายวันที่ดิฉันกว่าจะฟื้นจากความน่าสะพรึงกลัวของนรก และการทรมานของมัน ในตอนกลางคืนดิฉันตื่นขึ้นมากรีดร้องและพูดว่ามีหนอนกำลังคลานอยู่ในตัวดิฉัน ดิฉันกลัวนรกเสียเหลือเกิน




Technorati :

Del.icio.us :

Zooomr :

Flickr :

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น